4 ผลไม้ ทำลายสุขภาพตับ หลายคนมักนึกถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันดับแรก แม้ไม่ได้แตะแอลกอฮอล์เลยสักหยด แต่อาจถูกทำลายเงียบๆเพียงเพราะบริโภคผลไม้บางชนิดที่อร่อยและมีประโยชน์ โดยเฉพาะ 4 ชนิดต่อไปนี้


อะโวคาโด ไขมันดีมากไปก็ไม่ดีต่อตับ

อะโวคาโด ขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยไขมันดี ช่วยบำรุงหัวใจและลดไขมันเลวแต่ ไขมันดี เหล่านี้ยังคงต้องผ่านกระบวนการแปรรูปโดยตับ หากกินอะโวคาโดในปริมาณมากเป็นประจำ ตับจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อจัดการกับไขมันส่วนเกิน

 



 


คำแนะนำ: ควรกินอะโวคาโดไม่เกินครึ่งลูกต่อวัน (ประมาณ 50-75 กรัม) และหลีกเลี่ยงการกินต่อเนื่องหลายวัน โดยเฉพาะในรูปแบบที่มีน้ำตาลสูง เช่น สมูทตี้หรือของหวาน

 

ทุเรียน หวาน มัน แต่ภาระหนักของตับ

แม้ทุเรียนจะอร่อยและมีสารอาหารมากมาย แต่ก็เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลฟรุกโตสและไขมันสูง ฟรุกโตสเป็นน้ำตาลที่ต้องผ่านกระบวนการแปรรูปโดยตับโดยเฉพาะ และเมื่อร่างกายได้รับมากเกินไป ตับจะเปลี่ยนส่วนเกินเป็นไขมัน

คำแนะนำ: ควรจำกัดการบริโภคทุเรียนไว้ที่ประมาณ 2-3 เม็ดเล็กต่อสัปดาห์ (100-150 กรัม) และไม่ควรกินติดต่อกันหลายวัน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับอยู่แล้ว

 

 

ฮอว์ธอร์น เปรี้ยวสดชื่น แต่อาจทำร้ายตับโดยไม่รู้ตัว


เป็นผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานที่มักนำมาทำแยม น้ำเชื่อม หรือกินสด โดยได้รับความนิยมเพราะช่วยกระตุ้นความอยากอาหารและเชื่อว่าดีต่อระบบย่อยอาหาร ซึ่งหากบริโภคมากเกินไปจะกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุทางเดินอาหาร

คำแนะนำ: สำหรับผู้ที่มีตับอ่อนแอหรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ควรหลีกเลี่ยงการกินฮอว์ธอร์นในปริมาณมาก และแม้แต่คนทั่วไปก็ควรจำกัดการบริโภคไว้ที่ประมาณ 100-150 กรัมต่อครั้ง

 


 

ลูกพลับ อร่อยแต่ซ่อนภัยเงียบ

ลูกพลับ มีสารแทนนินสูง ซึ่งอาจทำปฏิกิริยากับกรดในกระเพาะอาหารจนกลายเป็นก้อนแข็ง ทำให้ย่อยยากและส่งผลให้ตับต้องรับภาระในการกำจัดของเสียมากขึ้น หากกินมากเกินไปอาจเร่งให้เกิดการสะสมไขมันในตับ

คำแนะนำ: ควรจำกัดการกินลูกพลับไว้ที่ 2-3 ผลเล็กต่อสัปดาห์ (150-200 กรัม) หลีกเลี่ยงการกินตอนท้องว่าง และไม่ควรกินลูกพลับที่ยังไม่สุกหรือสุกเกินไป